กล่องไปรษณีย์แบบมาตรฐาน

การเลือกกล่องเพื่อส่งสินค้าหรือพัสดุ สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงก็คือความเหมาะสมของกล่อง กับตัวสินค้า เพราะว่าจะส่งผลกับคุณภาพของการขนส่งสินค้าด้วย ยิ่งเป็นระยะทางของการส่งที่ไกลขึ้น ก็ต้องให้ความสำคัญมากขึ้นเช่นกัน และอีกอย่างก็คือการเลือกกล่องให้เหมาะสม ยังส่งกับอัตราการขนส่งด้วย ซึง่จะเป็นต้นทุนของผู้ที่เป็นพ่อค้าแม่ค้าทั้งหลาย 

แต่ก่อนอื่นสิ่งที่อยากให้ทุกคนได้ดูเกี่ยวกับกล่องพัสดุ สำหรับคนที่อยากจะขายของออนไลน์ก็คือ ขนาดของกล่องแต่ละประเภท เพราะจะส่งผลกับการเลือกใช้นั่นเอง มาดูกันว่ากล่องไปรษณีย์แบบมาตรฐานที่นิยมใช้กันตอนนี้ที่สามารถส่งได้ปรกติ มีแบบใดบ้าง 

ขนาดของกล่องไปรษณีย์ 

  • กล่องขนาด 14 x 20 x 6 ซม. (เบอร์ A) 
  • กล่องขนาด 17 x 25 x 9 ซม. (เบอร์ B) 
  • กล่องขนาด 20 x 30 x 11 ซม. (เบอร์ C) 
  • กล่องขนาด 22 x 35 x 14 ซม. (เบอร์ D) 
  • กล่องขนาด 24 x 40 x 17 ซม. (เบอร์ E) 
  • กล่องขนาด 30 x 45 x 20 ซม. (เบอร์ F) 
  • กล่องขนาด 31 x 36 x 26 ซม. (เบอร์ G) 
  • กล่องขนาด 40 x 45 x 34 ซม. (เบอร์ H) 

ทั้งหมดนี้คือขนาดของกล่องที่มีให้เลือกซื้อทั่วไปตามร้านขายกล่องพัสดุ แต่ก่อนที่จะเลือกใช้กล่องขนาดใดนั้น สิ่งแรกที่คุณควรรู้ก็คือขนาดของสินค้า และความจุของสินค้าที่คุณจะส่งก่อน จะได้เลือกให้เหมาะสม  

เหตุผลที่ควรเลือกกล่องให้เหมาะกับสินค้า 

1.ความปลอดภัยของสินค้า 

อันนี้คือเรื่องสำคัญที่สุด หากกล่องเล็กเกินไป เมื่อนำสินค้าใส่กล่องไปรษณีย์แบบมาตรฐานก็อาจจะทำให้สินค้าเสียหายจากการขนส่งได้ง่าย 

2.เพื่อเป็นการประหยัดต้นทุนค้าส่ง 

หากผู้ส่งเลือกใช้กล่องที่ใหญ่เกินความจำเป็นในการขนส่งสินค้า ผลที่ตามมาก็คือทำให้ราคาต้นทุนการขนส่งสูงขึ้น เพราะว่าไปเสียค่ากล่องเยอะเกิน การเลือกใช้กล่องขนาดใหญ่เกินไป จึงเป็นการสิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์ 

3.เพื่อความสวยงาม 

การแพ็กสินค้าให้เหมาะกับกล่อง จะทำให้สินค้าด้านในออกมาดูดี ดูเหมาะสม แสดงให้เห็นว่าทางร้านใส่ใจ ไม่เอาแต่ผลประโยชน์หรือว่าอยากจะลดต้นทุนอย่างเดียว  

แนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อกล่องพัสดุ 

การซื้อกล่องสำหรับพ่อค้าแม่ค้าทั้งหลาย ที่ขายของออนไลน์ หากทางร้านของเราขายสินค้าได้เยอะ ต้องแพ็คของส่งทุกวัน แนะนำว่าคุณไม่ควรซื้อกล่องแบบปลีกจากร้านค้ามา เพราะจะทำให้ต้นทุนการขนส่งสูงขึ้น ให้เลือกซื้อจากโรงงานผลิตกล่องโดยตรงเลยจะดีกว่า เพราะจะได้ราคาที่ถูกลง อีกอย่างเรายังเลือกออกแบบกล่อง สร้างเอกลักษณ์ของร้านเราลงบนกล่องได้ด้วย 

แต่ถ้าหากเป็นร้านทั่วไปที่ยังไม่มียอดขายสูงมากนัก ก็ใช้วิธีการซื้อจากร้านค้าปลีกมาก่อนก็ได้ แต่ควรเลือกร้านที่ราคาไม่สูงเกินไป จนกว่าร้านของเราจะมียอดขายเพิ่มขึ้น จึงสั่งทำกล่องทีหลังก็ได้ จะคุ้มค่ากว่าการสั่งครั้งแรกเลย 

เมื่อทุกท่านรู้เกี่ยวกับความสำคัญของการเลือกกล่องไปรษณีย์แบบมาตรฐานในการขนส่งสินค้าแล้ว หากร้านใดที่ยังใช้กล่องไม่ได้มาตรฐาน หรือใช้ไม่เหมาะสมอยู่ ก็ควรจะเปลี่ยนตั้งแต่ตอนนี้เลยจะดีที่สุด และยอดขายของทางร้านจะเพิ่มขึ้นแน่นอน เมื่อคุณลดต้นทุนลงไปได้